เคล็ดลับประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้ง่าย ๆ

Dave and Al  » Learning »  เคล็ดลับประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้ง่าย ๆ
0 Comments
ประกันชั้น 2

หากถามว่าในแต่ละปีนั้น ผู้ที่มีรถยนต์ต้องหมดค่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เชื่อได้เลยว่านอกจากค่าดูแลรักษารถยนต์ ค่าเติมน้ำมัน รวมทั้งค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่จำเป็นต่อการใช้รถมาก ๆ เพราะบนท้องถนนก็มีคนหลายรูปแบบ มีนิสัยการขับขี่ที่ไม่เหมือนกัน หรือในบางครั้งคราว อาจมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น จนทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับตัวรถยนต์ ยังไม่รวมไปถึงในกรณีที่รถยนต์เสื่อมสภาพและต้องการการดูแลซ่อมแซมจากผู้เชี่ยวชาญ การมีความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ก็จะเข้ามาช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในส่วนนี้ได้

ซึ่งประกันรถยนต์นั้นก็มีหลากหลายรูปแบบความคุ้มครอง หรือที่มักจะเรียกกันว่า แผนประกัน นั่นเอง โดยคนที่มีงบประมาณมาก และมีความเสี่ยงสูง ก็อาจเลือกความคุ้มครองดี ๆ จากประกันชั้น 1 มาดูแล แต่สำหรับบางคนที่อาจจะมีงบน้อยลงมาหน่อย ก็อาจจะเลือกประกันชั้น 2 ที่ความคุ้มครองครอบคลุมเช่นกัน ราคาเบี้ยประกันก็จะลดลงด้วย

แต่สำหรับใครที่คิดว่าต่อให้เลือกขอบเขตความคุ้มครองที่แคบลงมาเยอะแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าอยากประหยัดเงินลงไปอีก เพราะต้องการรัดเข็มขัดและเก็บออมเงินให้มากขึ้น บทความนี้จะขอแนะนำวิธีง่าย ๆ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ จะมีอะไรบ้างลองเลื่อนลงมาอ่านเลย

ประหยัดเบี้ยประกันชั้น 2 พร้อมรับความดูแลสุดคุ้ม

  • ดูพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของตนเอง

เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลกับเบี้ยประกันเลยก็ว่าได้ กับเรื่องของพฤติกรรมการใช้รถยนต์นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 2 หรือประกันแบบอื่น ๆ คุณต้องเริ่มต้นจากการประเมินตนเองก่อนว่ามีพฤติกรรมการใช้รถยนต์อย่างไร และมีลักษณะการใช้งานรถยนต์เป็นอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อเงินที่คุณต้องจ่าย หากไม่ได้ประเมินตนเองมามากพอคุณก็อาจจะกำลังเลือกประกันรถยนต์ที่อาจจะไม่เหมาะกับคุณอยู่ก็เป็นได้

  • ดูสภาพรถยนต์

ไม่ใช่แค่ว่ามีรถยนต์แล้วจะทำประกันภัยรถยนต์แบบไหนก็ทำได้ เพราะบริษัทฯ จะพิจารณาจากสภาพรถยนต์และอายุการใช้งานของรถยนต์ประกอบด้วย จึงค่อยแจ้งข้อเสนอหรือค่าเบี้ยประกันภัยที่จะต้องชำระในแต่ละงวด ซึ่งการทำประกันชั้น 2 นั้นก็เหมาะกับรถยนต์หลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันก็ควรหาเหตุผลต่าง ๆ มาเพิ่มเติม เพื่อเช็กความเหมาะสมอีกทีด้วย

  • สถานภาพผู้ขับ

แน่นอนว่า คนที่จะทำให้รถยนต์เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ ก็คือผู้ขับนั่นเอง เพราะผู้ขับจะเป็นคนที่ทำการใช้งานและควบคุมรถยนต์ไปตามเส้นทางต่าง ๆ บนท้องถนน ดังนั้น บริษัทฯ จะต้องทราบว่าบุคคลใดที่จะเป็นผู้ใช้งานรถยนต์คันนี้ โดยผู้ขับที่มีอายุน้อย ประสบการณ์การขับขี่ไม่เยอะ ก็อาจจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันมากกว่า แต่ถ้าเป็นผู้ขับที่มีประสบการณ์มาพอสมควร และมีประวัติการขับขี่ยานยนต์ที่ดีมาตลอด ก็อาจได้รับส่วนลดเพิ่มได้ หากเลือกทำประกันชั้น 2 ก็อาจได้รับส่วนลดเยอะและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้หลายบาทเลยทีเดียว